วันศุกร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2561

# โปรดฟังจากคำของท่านเอง!! ทำไมสมณะโพธิรักษ์ ยังสนับสนุนนายกฯตู่

โปรดฟังจากคำของท่านเอง!! ทำไมสมณะโพธิรักษ์ ยังสนับสนุนนายกฯตู่

พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ ได้เทศนาไว้ ในคำ่ของวันศุกร์ที่ 12 มกราคม 2561 ที่ผ่านมาตอนหนึ่งของการเทศน์ถอดความว่า...

พ่อครูว่า...คืออาตมายังสนับสนุนนายกตู่อยู่นี่ก็เพราะว่า
อาตมาก็ถามไปว่า ...ขณะนี้ตัวบุคคลมีใครเหมาะสมเท่านายกฯตู่คนนี้ เอา status quo ตอนนี้ คุณพยายาม focus เข้ามาให้ดีๆโฟกัสให้คม ให้แม่นให้เล็กให้ชัดที่สุดให้ได้ มีใครคนไหนที่ยกตัวอย่างเป็น candidate ดู
อาตมาก็ประกาศไป คุณกล่าวนามประกาศตัวมาสิ ถ้าหาก popular(มีชื่อเสียงเป็นที่นิยม) พอมีความเป็นไปได้พอ เพราะเราก็ดู สังคมตอนนี้เราก็ตรวจสอบ เราก็มีหลายคนช่วยตรวจสอบ Popular Man หรือคนที่อยู่ในสังคมขณะนี้ ที่มี Activity อยู่ เราก็พอเห็นพอรู้ว่ามีใครบ้าง ส่วนผู้ที่กบดานอยู่ ยังไม่แสดงตัว คุณเสนอมาเลยเราไม่เห็น เราก็มีวิสัยทัศน์เราแค่นี้ ก็เท่าที่เรามีความสามารถที่จะเลือก Popular Man คนที่พอจะมี Activity อยู่ในสังคม ไม่ใช่ว่าเราไม่ดูกว้างเลย ว่าสังคมเขาเป็นอะไรอยู่ เพราะฉะนั้น เราไม่รู้จริงๆ คุณเสนอมาเราก็ขอบคุณ
หากเสนอมา เราอาจตกหล่นไป นึกว่าเขาไม่ใช่คนดี คนเก่ง หาก popular พอ และเราก็รู้ด้วย เราจะรู้ว่ามีคนนี้ด้วยหรือ
สมณะฟ้าไทว่า... เขาใช้คำว่าสืบทอดอำนาจมาหรือเปล่า?
พ่อครูว่า..สืบทอดอำนาจของในหลวง ไม่ใช่สืบทอดอำนาจของทักษิณ ก็เคยวิเคราะห์ให้ฟังกันแล้วว่า นายกตู่ทำการเมืองสืบทอดในหลวงหรือสืบทอดทักษิณ? ก็ต้องเป็นแบบในหลวง ก็พยายามให้มีความคิดที่ชัดเจนเปรียบเทียบกัน ให้ชัดว่า มันมีความคล้ายหรือความต่าง ลักษณะคล้ายหรือต่างกันอย่างไรบ้าง
ขณะนี้บ้านเมืองยังไม่มีการเลือกตั้ง อาตมาว่าการเลือกตั้งเป็นเรื่องเล็กๆของประชาธิปไตย ประชาธิปไตยไม่ได้มีแค่การเลือกตั้ง เรื่องการเลือกตั้งเป็นของการเมืองแบบขาเดียว เขาไม่มีทางเลือก การเมืองขาเดียวเขาก็เอาเลือกตั้งเป็นประเด็นเอก แต่การเมืองขาเดียว มันเป็นการเมืองขาหักขาเป๋ไม่สมบูรณ์ เป็นการเมืองพิการ การเมืองเป็นเรื่องของมนุษย์จะต้องมีทั้ง 2 ขามีทั้งกายและวิญญาณ แต่การเมืองขาเดียว มันมีแต่กาย ไม่มีจิตวิญญาณ ไหนว่าจะมีจิตมนุษย์ร่วมแต่จิตมนุษย์เขาไม่สมบูรณ์ วิธีการขาเดียวไม่มีกฎมณเฑียรบาล ไม่มีการสืบทอดสันติวงศ์สืบต่อทาง DNA โดยเฉพาะ DNA ทางจิตวิญญาณมันไม่มี ฟังดีๆ เขาเข้าใจหนักไปทางรูป จะเป็นการเมืองขาเดียว คนที่เข้าใจทั้งรูปและนามจะเป็นการเมืองสองขา
การเมืองประชาธิปไตยเป็นเรื่องของมนุษย์ มนุษย์ต้องมี 2 ขา หมายถึงมีทั้งรูปและนาม การเมืองขาเดียวมันไม่ใช่มนุษย์ เป็นการเมืองพิการ ศึกษาให้ดี เรื่องธรรมะสองของพระพุทธเจ้า ลึกซึ้งจริงๆ
ตอนนี้เราพยายามให้เป็นประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม ไม่ใช่แบบเลือกตั้ง อะไรเป็นประชาธิปไตยที่แท้ไปคิดให้ตก ประชาธิปไตยเลือกตั้งแบบผู้แทน กับประชาธิปไตยแบบที่มีส่วนร่วมของประชาชน อันไหนคือประชาธิปไตยกว่ากัน ไปคิดตรงนี้เป็นการบ้าน

ทีนี้ก็มาอ่าน เรื่องของสภาพจริงของสังคมไทย
ตอนนี้ก็ตอบคำถามก่อนเรื่องโยนหินถามทาง

อาตมาเป็นคนชนิดนี้ การแสดงธรรมของอาตมา อาตมาแสดงท่าทีแรง ใครก็เห็นอยู่แล้วบุคลิกอย่างนี้แน่นอน แสดงท่าทีแรงทั้งเป็นท่าทาง นัจจะ ทั้งสุ้มเสียงสำเนียง คีตะ ทั้งหาคำ เลือกสรรภาษาเอามาใช้ เรียกว่า วาทิตะ อาตมาก็ต้องเลือกอย่างนี้ทั้งสุ้มเสียงสำเนียงลีลา หาคำเหมาะสม ให้ชัดเจน

อาตมาแสดงธรรม มีท่าที แรง ทั้งท่าทาง(นัจจะ) ทั้งสุ้มเสียงสำเนียง(คีตะ) ทั้งหาคำเลือกสรรภาษา(วาทิตะ)ที่เหมาะสมให้ชัดเจน รู้ได้ดีแม่นยำ สั้นๆกระทัดรัด(concise)

ส่วนมากก็มักจะคิดขึ้นทันทีทันใดนั้นๆสดๆ ไม่ได้เตรียมมาก่อน(extempore) จึงเป็น“ความจริงและความรู้” แสดงออกมาอย่างที่เห็นกัน เป็นความตั้งใจของอาตมา

มันจึง extend คือ มันดูมีแรงกระจายกำลังออกไปอย่างสุดฝีมือ เป็นความตั้งใจของอาตมา เพื่อให้เกิด extend เป็นกระแสกระจายออกไป เป็นความตั้งใจ อาตมารู้ มันรวมทั้งรูปและนาม มีนามธรรมที่ลึกซึ้ง แต่ทำอย่างมีเหตุผล อธิบายได้ ไม่ใช่ทำอย่างไม่รู้

อาตมาถนัดการแสดงออกแบบนี้ ไม่ค่อยออมมือ ไม่ถนอม จึงไม่ดูนิ่มนวล ก็ดูแรงเสมอ ด้วยความจริงใจ ไม่อมพะนำ ไม่เหยาะๆแหยะๆ ไม่มีนิสัยแบบนั้น เขาให้ฉายาอาตมามีทั้งขวานจักตอก หรือผู้มีสายฟ้าในวาทะ อาตมาตั้งใจอย่างนี้เจตนาอย่างนี้ ตรงกับความจริงของอาตมา ตรงกับธรรมะสองหรือรูปนามที่อาตมาทำ อย่าให้อาตมาลอกเลียนแบบคนอื่นเลย อาตมาเป็นศิลปินนะ อาตมามีอัตลักษณ์ของอาตมา ก็ทำอย่างนี้

ผู้มีนิสัยแบบอ่อนๆ เบาๆ ไม่พูดให้ตรงกิเลส ถนัดแบบนี้ก็แสดงของท่านไป ต่างคนต่างถนัด

อาตมาจึงดูแตกต่างจากผู้ที่นิ่มนวล เบาๆ แล้วเห็นว่า อย่างเบาๆ ไม่ตรงเปรี้ยงๆลงไปที่กิเลส เป็นความ“สุภาพ” พูดเฉียดไปเฉียดมา กลัวคนว่า ไปว่าเขา ไปดูถูกเขา ก็เป็นธรรมดาของการแสดงออกแบบนั้น

เพราะท่านเห็นว่าแบบอาตมาแสดงออก“ไม่สุภาพ” เพราะมันแรงๆ มันตรงๆ ทิ่มเข้าไปในเป้าเสมอ โดยเฉพาะทิ่มถูกเป้าคือกิเลส มันจึงรู้สึกแรงแน่ๆ ท่านไม่เอาก็เป็นความเห็นจริงของท่าน ที่แตกต่างจากอาตมา

ก็ต้องขออภัยต่อผู้รู้สึกต่างและถนัดต่างกับอาตมา

พระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดๆว่า การพูดกระทบกิเลสนั้นมันจะเกิดความรู้สึกเป็น“ความแรง”เสมอ

อาตมารู้ความเป็นจริงนี้ จึงไม่ได้ตกใจ แปลกใจอะไร

เพราะถ้ากิเลสมีในใคร แล้วใครมาพูดถูกกิเลสผู้นั้น หรือยิ่งตำหนิกิเลส ถล่มกิเลส ด่าว่ากิเลส แล้วมันตรงกับกิเลสของตน แน่นอนผู้มีกิเลสสะดุ้ง สะเทือนทันที

อาตมาต้องการพูดแล้วคนผู้ฟังรู้สึกว่ากระทบกิเลสของผู้ฟังทันที ไม่ออมมือ อาจจะไม่ขี้เกรงใจในเรื่องนี้

ใครจะว่าอาตมานิสัยไม่ดี นิสัยเสีย ที่เที่ยวได้ว่ากิเลสของคนไปทั่ว อาตมายอมรับว่าอาตมามีนิสัยแบบนี้ จะว่า“เสีย ก็“เสีย” ยอมรับว่าเป็นคนมีนิสัยแบบนี้

มันเสียเวลา ไม่พูดให้ใครรู้จักกิเลสของตนเสียที สักที แล้วอาตมาจะมาพาคนลดกิเลสได้ยังไง?

มารยาทอาตมาในเรื่องนี้เป็นอย่างนี้ ผู้ที่ไม่ยินดีแบบนี้ก็อาจจะตำหนิอาตมาก็เป็นธรรมดา

ต้องขออภัย ก็ขออภัยจริงๆ ที่อาตมาเห็นว่าอย่างนี้ถูกแล้ว ดีแล้ว และก็ขอทำอย่างนี้ต่อไปจนตาย

คือ พูดให้กระทบกิเลสของคน เปรี้ยงๆนี่แหละ.

เทศนารายการพุทธศาสนาตามภูมิ โดยสมณะโพธิรักษ์
ศุกร์ที่ 12 มกราคม 2561  

อ่าน เนื้อหาเทศนาทั้งหมด คลิกที่นี่

ดาวโหลดเสียงเทศนา คลิกที่นี่

ดูย้อนหลังได้ที่ เฟสบุค บุญนิยมทีวี โดย คลิกที่นี่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

# พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ ฝากลมฝากฟ้าผ่านสื่อไปถึงนายกฯลุงตู่ด้วยความปรารถนาดี

_มีคำถาม ในรายการ วิถีอาริยธรรม วันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน 2561นี้ ว่า.....เปรยตามสายไลน์มาว่า พ่อท่านพูดอะไรก็ดีไปหมด มีเรื่องเดียวที่ไม่เข้าห...